วันพฤหัสบดีที่ 3 มิถุนายน พ.ศ. 2553

จากนักเรียนสู่ PR ในยุค 2010

ปี 2010 นี้เป็นปีแห่งความปั่นป่วนในแง่ของวีซ่ากันจริงๆ คุณหมอวีซ่าได้เขียนเรื่องไปเมื่อ 2-3 ฉบับที่ผ่านมาถึงแนวโน้มในปัจจุบันของรัฐบาลออสเตรเลียที่เริ่มมีนโยบายปิดประตูเมือง ตัดผู้ขอวีซ่าทักษะโดยการเปลี่ยนกฎอย่างไม่มีการแจ้งล่วงหน้า โดยการไม่ออกวีซ่านักเรียนให้อย่างง่ายๆเหมือนกับที่เคยผ่านมาอีกแล้ว นักศึกษาที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดก็จะได้แก่กลุ่มที่ได้ลงทะเบียนเรียนไปแล้ว บ้างก็ใกล้จบกันแล้ว โดยได้ลงเรียนในวิชาที่เป็นไปตามกฎสมัยนั้น แต่มาเจอการเปลี่ยนกฎอย่างกระทันหันก็น่าเห็นใจมาก แต่สำหรับผู้ที่ยังไม่ได้เรียนอะไรเป็นเรื่องเป็นราว หรือกำลังเรียนภาษาอังกฤษใกล้จบ ฉบับนี้คุณหมอวีซ่าขอเสนอขั้นตอนและแนะแนวทางจากการเรียนไปสู่ PR ที่คิดว่าปลอดภัยและมีความเป็นไปได้สำหรับนักศึกษาทั้งหลายนะคะ


จากการติดตามอ่านทั้งความคืบหน้าของกฎเกณฑ์และนโยบายของรัฐฯ ข้อเสนอที่กลุ่มชนต่างๆเขียนเข้าไปเสนอรัฐบาลกันมากมาย ก็พอจะสรุปได้ว่า ในยุคนี้ นักศึกษานานาชาติที่ต้องการจะอาศัยช่องทางแห่งการศึกษาเพื่อก้าวไปสู่วีซ่าทำงานและในที่สุดสู่วีซ่าถาวร (Permanent Resident หรือ PR) นั้น มีแนวโน้มสูงมากที่อาจจะต้องหันกลับมาลงเรียนในหลักสูตรปริญญาโดยเฉพาะสำหรับเด็กไทยก็คือต่อโทดั่งที่เคยเป็นมาตั้งแต่สมัยก่อนที่รัฐบาลออสเตรเลียจะมาเปิดรับช่างทั้งหลาย เช่น กุ๊ก ช่างทำผม ช่างขนมอบ เป็นต้น

คุณหมอวีซ่ามีวีซ่าตัวดีๆที่อยากนำเสนอน้องๆที่ตั้งใจจะเรียนในสายวิชาชีพเพื่อก้าวไปสู่ตำแหน่งและหน้าที่การงานดีๆ เพื่ออนาคตที่สดใส รากฐานที่มั่นคงสร้างกันไม่ง่าย ต้องอาศัยเงินทองและความมุมานะ แต่ถ้าน้องๆ มีความพยายามกัน ก็อยากแนะให้เดินให้มันถูกทาง อย่าไปฟังคนโน้น คนนี้ ชักจูง หว่านล้อมจนทำให้เราเขวและเสียอานาคตไปเปล่าๆ อีกทั้งเวลาและเงินทองที่เสียไป ใช่ว่าจะเรียกคืนกลับมาได้ง่ายๆที่ไหน วีซ่า in-trend ที่พูดถึงนั้นก็คือเป็นประเภทที่เข้าข่ายมีนายจ้างสปอนเซอร์ หรือที่เรียกว่า:

Employer Nomination Scheme

จะเห็นได้ว่าในช่วงนี้ รัฐบาลออสเตรเลียได้ส่งเสริมให้ผู้คนพยายามหางานทำและให้นายจ้างสปอนเซอร์ตน โดยการเปิดช่องทางวีซ่าตัวนี้ให้มีการผ่านอนุมัติได้อย่างง่ายๆและรวดเร็ว จะเห็นได้ว่า อิมมิเกรชั่นได้ระบุไว้อย่างชัดแจ้งว่าวีซ่าตัวนี้ มีไว้ให้นายจ้างต่างๆในออสเตรเลียสปอนเซอร์ลูกจ้างชาวต่างชาติที่มีทักษะสูงหรือมีความชำนาญในสาขาวิชาชีพต่างๆให้เข้ามาทำงานในออสเตรเลียได้อย่างถาวร ส่วนลูกจ้างที่จะมีสิทธิ์ขอวีซ่าตัวนี้ได้ อิมฯระบุไว้ว่าจะต้อง

เป็น Highly skilled workers from overseas คือมีทักษะสูงตรงมาจากต่างประเทศ หรือ

เป็น Highly skilled temporary resident currently in Australia หรือเป็นผู้มีทักษะสูงที่ถือวีซ่าชั่วคราวอยู่ในออสเตรเลียอยู่แล้ว


ถ้าได้วีซ่าตัวนี้มาน้องๆก็สามารถที่จะ

- อยู่และทำงานอย่างถาวรใน Australia ได้ตลอดไป

- เรียนหนังสือในออสเตรเลียได้สิทธิ์เหมือนคนที่นี่

-ได้รับผลประโยชน์ทางประกันสุขภาพ (Medicare) และ เภสัช (Pharmaceutical Benefit Scheme)

- มีสิทธิ์รับผลประโยชน์ทางสังคมสงเคราะห์ (Social Security Payment) หลังผ่านช่วงจำกัดไปแล้ว

- มีสิทธิ์ขอสัญชาติออสเตรเลียได้

- มีสิทธิ์เป็นสปอนเซอร์ให้กับญาติพี่น้องหรือแฟน ให้ย้ายถิ่นฐานมาอยู่ในออสเตรเลียกับตนได้อย่างถาวร

เงื่อนไขของวีซ่าตัวนี้ก็มีอยู่ประการใหญ่ๆดังนี้

นายจ้าง : ต้องผ่านการอนุมัติให้เป็นนายจ้างที่มีสิทธิ์สปอนเซอร์ลูกจ้างได้ (Qualified Employer) และต้องมีตำแหน่งงานรับรองให้ลูกจ้างเป็นเวลาอย่างต่ำ 3 ปี จ่ายเงินเดือนและอำนวยสภาวะการทำงานให้กับลูกจ้างตามกฎหมายแรงงานของออสเตรเลีย

ลูกจ้าง : อายุต้องต่ำกว่า 45 สอบ IELTS ได้ 5 เป็นขั้นต่ำ (แต่อาจมีข้อยกเว้นให้เรื่องอายุกับภาษาอังกฤษ) ตำแหน่งคนที่เสนอจะต้องเป็นประเภทที่ต้องอาศัยทักษะสูง (Highly Skilled) และเป็นอาชีพที่ลงไว้อยู่ในรายการอาชีพ Employer Nomination Scheme Occupation List หรือ ENSOL

สำหรับเงินเดือนจ้างก็ต้องเป็นไปตามอัตราในท้องตลาด สำหรับคนที่ทำงานในตำแหน่งใกล้เคียงกันตามที่ตีพิมพ์อยู่ใน Gazette Notice ของรัฐบาล แต่ขั้นต่ำก็ต้องเป็น $45,220 ต่อปี + 9% Superannuation

และผู้สมัครก็แน่นอน จะต้องผ่านการตรวจสุขภาพกับสันติบาลก่อนที่วีซ่าจะออกได้นะคะ

อาชีพในสาย Engineering กับ IT

หากท่านผู้อ่านขยันติดตามอ่านข่าวเกี่ยวกับแรงงานในสายอาชีพต่างๆที่ขาดแคลน จะเห็นได้ว่าช่วงนี้ออสเตรเลียกับนิวซีแลนด์ขาดแคลนวิศวกรกับผู้เชี่ยวชาญทาง IT เป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะที่ Western Australia ขาด Mining Engineers อย่างแรง เนื่องจากมีเหมืองมากมายที่จะต้องไปขุดไปคุ้ยกัน และแน่นอนหากอยากได้ทำงานในสายนี้หรือสาย IT เงินเดือนขั้นต่ำตามกำหนดก็จะเป็น $61,920 + 9% Superannuation ต่อปี คิดเป็นเงินไทยก็ราวๆ 160,000 – 110,000 บาท ต่อเดือน โดยรวมเงินบำนาญ 9% ที่นายจ้าง ต้องเป็นฝ่ายจ่ายสมทบอยู่ในนี้ด้วย

ดังนั้นหากน้องๆถามว่า จะให้สมัครเรียนอะไรดีในช่วงนี้เพื่อจะ Make sure ว่าได้ PR หลังจบ?

คุณหมอวีซ่าก็อยากเชียร์ใหน้องๆที่มี Background Engineer, วิทยาศาสตร์, IT มาพบพี่ๆที่ CP เพื่อสมัครเรียนในหลักสูตรที่เป็นที่รับรองของสมาคม Engineers Australia (GA) หรือ Australian Computer Society (ACS) วันนี้คุณหมอวีซ่ามี 4 มหาวิทยาลัยใหญ่ๆดังๆที่อยากแนะนำให้น้องๆ ไปลงเรียนกันดังนี้:

University of Sydney

ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยแห่งแรกของออสเตรเลียหรือถ้าเทียบก็เหมือนจุฬาลงกรณ์ฯของบ้านเรา

หลักสูตรที่น่าสนใจในสาย Engineers กับ IT ก็คือ Master of Professional Engineer, Master of Information Technology

มหาวิทยาลัย UTS

มีหลักสูตร นักเรียนไทยที่อยากต่อปริญญาโททางสายวิศวกรรม เช่น Master of Engineering, Master of Engineering Management และอื่นๆอีกมากมาย

Macquarie University

มาแรงในสาย IT ตั้งแต่หลักสูตร Master of Information Technology ในแทบทุกสาขาที่ใช้ขอ PR ได้ก็ว่าได้ เช่น IT ในสาย Information Systems, Software Engineering, System ad Network Management, System Security และ Web Technologies เป็นต้น

UNSW

ที่เด่นและดังแล้วเป็นที่ขาดแคลนในตลาดงานของออสเตรเลียก็คงหนีไม่พ้นสาขาทางด้าน Mining engineering และ Biomedical Engineering ซึ่งมีเปิดสอนในระดับ Master degree by coursework

ทุกสาขาการเรียนและมหาวิทยาลัยที่คุณหมอวีซ่าแนะนำล้วนให้อนาคตที่สดในกับน้องๆทั้งสิ้น ก็อยากเชียร์ให้มาลงทะเบียนเรียนโทกันต่อที่ CP Sydney, Melbourne, Bangkok, Chiang Mai

สมัครฟรีกับสถาบันตลอดเดือน June 2010 ที่ CP ทุกสาขานะคะ ไว้พบกันค่ะ

Bangkok Office:


Shop 217, Level 2 Plaza, United Centre Building,

323 Silom Road, Bangkok 10500

(+66 2) 635 5445



Chiang Mai Office:

313/2-3 Moo3,Chiang Mai 89 Plaza,

Chiang Mai-Lumphan Road,

T.Nong Hoi, A.Muang,

Chiang Mai 50000

(+66 53) 334 222



Sydney Office:

Suit 1,Level 6, Labor Council Bldg.,

383 Sussex St, Sydney NSW 2000

(+61 3) 9267 8522



Melbourne Office:

Suit 1003,10 Fl, Equitable House

343 Little Collins St (Cnr Elizabeth St)

Melbourne, VIC 3000

(+61 3) 9602 5355

ไม่มีความคิดเห็น: